วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Choujigen Game Neptune The Animation

超次元ゲイム ネプテューヌ The Animation
Name:  A15000-2358135566.1358009274.jpg
Views: 74778
Size:  52.7 KB






















ชื่อโรมันจิ - Choujigen Game Neptune The Animation
ชื่อภาษาอังกฤษ - Hyperdimension Neptunia the Animation

รายละเอียดเพิ่มเติม
ต้นฉบับจาก - เกม
ฉายใน - TV
จำนวนตอน - ไม่ทราบ
ออกอากาศวันที่ - 12 กรกฏาคม 2013
สตูดิโอ : David Production
เว็บ - http://nep-anime.tv/
ทวิตเตอร์ - @nep_anime
OP
"Dimension tripper!!!" โดย nao
ED
"Neptune☆Sagashite" (ネプテューヌ☆サガして) โดย Afilia Saga

นำเรื่อง... (จากใน PV)
ณ ดินแดนแห่งอุตสาหกรรมเกมในต่างมิติอันไกลแสนไกล... ในอนิเมะเรื่อง Hyperdimension Neptunia ที่นี่คือดินแดนแห่งอุตสาหกรรมเกม
อันมีสิ่งนามว่า 'เทพธิดา' คอยปกปักรักษาแคว้นต่างๆ ในโลกที่ห่างไกลจากความเป็นจริง
เหล่าเทพธิดาทั้งสี่ได้ปกครองอาณาจักรทั้งสี่นามว่า Planeptune, Lastation, Lowee, และ Leanbox และทำสงครามเพื่อแย่งชิง 'แชร์' อันเป็นต้นกำเนิดพลังของเทพธิดามาเนิ่นนาน
หากแต่ ด้วยความตระหนักถึงพลังที่ถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า เหล่าเทพธิดาจึงตกลงทำ "สนธิสัญญา" ห้ามใช้กำลังในการแย่งแชร์
ด้วยผลพวงของสนธิสัญญาสงบศึกนี้ความสัมพันธ์อันดีครั้งใหม่จึงเกิดขึ้นทั้งในเหล่าสี่เทพธิดาและเหล่าน้องสาว
ยิ้มเยาะด้วยกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน
บัดนี้ ละครฉากใหม่อันสดใสได้เปิดม่านขึ้นแล้ว
อนาคตข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ และดินแดนแห่งอุตสาหกรรมเกมจะเป็นอย่างไรต่อไป...

ภาพตัวละครจาก - http://www.anime-th.com/2013/01/hype...er-design.html
ตัวละคร
Neptune (Purple Heart) cv: Tanaka Rie (อลิเซีย - อควอเรี่ยน อีโวล)
















































Noire (Black Heart) cv: Imai Asami (มาคิเสะ คุริสุ - STEINS;GATE ฝ่าวิกฤตพิชิตกาลเวลา)



Blanc (White Heart) cv: Asumi Kana (เนียลโกะ (a.k.a เนียร์ลาโธเทป) - เทพพิทักษ์จอมยุ่ง! เนียลโกะ)


Vert (Green Heart) cv: Sato Rina (บิริบิริมีดุ้น - เรลกัน แฟ้มลับคดีวิทยาศาสตร์/อินเด๊กซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม)


Nepgear cv : Horie Yui (ชิราคาว่า โคโทริ - D.C. ~ดา คาโป~)





















UNI CV : Kitamura Eri (มิกิ ซายากะ - สาวน้อยเวทมนตร์ มาโดกะ)

ROM cv : Ogura Yui (สึซึคาคุชิ สิคิโกะ - องค์ชายจิตป่วนกับน้องเหมืยวยิ้มยาก) 

RAM cv : Ishihara Kaori (อาซึกิ อาซึสะ - องค์ชายจิตป่วนกับน้องเหมียวยิ้มยาก)











วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

10 วิธีแก้ง่วงยามบ่าย

     1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต และหันไปกินอาหารที่มีโปรตีนและเส้นใยสูงแทน เช่นเวลาสั่งข้าวผัด ให้คนขายใส่ข้าวลดลง หรือก๋วยเตี๋ยวก็ใส่ผักเยอะๆ เส้นน้อยๆ

     2. ลดปริมาณอาหารลง เพื่อให้ระบบการย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไป และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นพลังงานให้คุณ ถ้ากลัวไม่อิ่ม ให้เปลี่ยนไปกินปริมาณน้อยลงแต่ถี่ขึ้น

     3. เดินย่อยหลังมื้อกลางวันประมาณ 5 นาที จะช่วยให้ระบบการย่อยทำงานดีขึ้นในเวลางาน หาโอกาสลุกเดินอย่างน้อยชั่วโมงละครั้งเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองและแขนขามากขึ้น

     4. ลองเปลี่ยนมากินอาหารว่างที่มีประโยชน์อย่างไข่ต้ม โยเกิร์ต ธัญพืชต่างๆ (เช่นเมล็ดฟักทอง ถั่ว งา ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงประสาทและทำให้จิตใจแจ่มใส) งานวิจัยจากสหรัฐระบุว่า ถั่วหลายชนิดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแบคทีเรียที่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของโรคฟันผุ และยังสามารถประยุกต์ใช้กับโรคอื่นๆ ได้อีก เช่น กำจัดเชื้อโรคที่พบในสิว วัณโรคและโรคเรื้อน

     5. หลีกเลี่ยงของว่างที่มีน้ำตาลสูงหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้งในช่วงสายและบ่าย เพราะยิ่งทำให้คุณเซื่องซึมไปกันใหญ่

     6. เมื่อเริ่มรู้สึกอ่อนเปลี้ย (ง่วงระยะแรก) ลองดื่มน้ำสะอาดแก้วโตสักแก้ว พยายามจิบน้ำเปล่าตลอดวัน หรืออาจดื่มน้ำขิงก็ได้ถ้าอากาศเย็น

     7. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดขึ้นเพื่อช่วยให้ระบบการย่อยทำงานดีขึ้น แถมยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้น (ลดความอ้วนได้อีกต่างหาก) มีสมาธิ และผ่อนคลายมากขึ้นด้วย

     8. ถ้าคุณบริโภควิตามินรวมหรือวิตามินบีคอมเพลกซ์อยู่แล้ว ลองกินอาหารเสริมเหล่านี้พร้อมกับมื้อกลางวัน เพื่อให้ประโยชน์จากวิตามินช่วยบรรเทาความง่วงเหงาอีกส่วนหนึ่ง

     9. นอนพักผ่อนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จำไว้ว่าถ้านอนไม่พอตอนกลางคืน ไม่ว่าอะไรก็ฉุดให้คุณตื่นยามบ่ายไม่ได้

     10. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกทางที่ช่วยเติมพลังการทำงานให้คุณอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้คุณรู้สึกกระปี้กระเปร่า กระตือรือร้น ลองหาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง (ครั้งละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง) โดยอาจเริ่มจากการวิ่ง ว่ายน้ำ ฝึกโยคะและเดินเร็ว

10 วิธีถนอมสายตา

          1. ควรเลือกจอภาพที่มีการกระจายรังสีต่ำเพื่อถนอมสายตา วิธีทดสอบง่ายๆ ทำได้โดยลองปิดสวิตช์จอภาพ แล้วเอามือหรือแขนไปจ่อไว้ใกล้ๆ จอภาพให้มากที่สุด จอภาพที่มีการกระจายรังสีต่ำจะแทบไม่รู้สึกถึงไฟฟ้าสถิตตามขนที่ผิว คือไม่รู้สึกขนลุก     

          2. ปรับแสงและความคมชัดของหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้รู้สึกสบายตา รวมทั้งความสว่างภายในที่ทำงาน ลดแสงสะท้อนรบกวน เช่น ปิดไฟดวงที่สะท้อนจ้าลงบนจอคอมพิวเตอร์ หากทำงานกับคอมพิวเตอร์ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้าและจอภาพมีความสว่างมาก ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อดวงตาได้ง่ายและรวดเร็ว จะรู้สึกว่ามีอาการปวดร้าวดวงตาเร็วและแสบตาอย่างรุนแรง      

          3. ตำแหน่งของจอภาพควรห่างจากดวงตาประมาณ 18-24 นิ้ว หรือประมาณช่วงแขนเอื้อม และปรับให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 15-20 องศา หากระยะห่างระหว่างตากับจอภาพไม่สัมพันธ์กัน จะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและปวดตาได้ง่าย      

          4. ใช้แผ่นกรองรังสีติดไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะช่วยลดการกระจายรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แล้วแต่คุณภาพของสินค้า แต่อย่างน้อยๆ ก็ช่วยลดแสงจ้าจากจอคอมพิวเตอร์ลงได้      

          5. ทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ เพราะฝุ่นจะทำให้เกิดการสะท้อนแสงมากขึ้น

          6. หยุดพักหรือเปลี่ยนตารางเวลาการทำงานใหม่ จะช่วยให้สายตาคลายความเมื่อยล้าจากการจ้องเพ่งคอมพิวเตอร์ได้ จงหยุดพักสายตาครั้งละ 15 นาทีทุกๆ 2 ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็แนะนำว่าควรจะหยุดพักบ่อยๆ โดยแต่ละครั้งใช้เวลาเพียงเล็กน้อย เช่น พักสายตาทุก 30 นาที โดยหลับตาหรือมองไปไกลๆ สัก 5-10 นาที แล้วจึงเริ่มทำงานต่อไป ก็จะช่วยถนอมสายตาได้      

          7. อาจใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ วางไว้บนเปลือกตา และหลับตาสัก 2-3 นาที หรือจะให้ดีกว่านั้นก็คือ ปิดไฟ นอนพักสักครู่      

          8. ผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์ อาจจะเกิดอาการตาแห้งเพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยง เพราะห้องที่มีคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ ก็มักจะมีเครื่องปรับอากาศอยู่ด้วย เมื่อบวกกับความร้อนจากเครื่องคอมพิวเตอร์ จะทำให้อากาศแห้ง การหยอดน้ำตาเทียมจะช่วยได้      

             9 . ควรกะพริบตาให้บ่อยครั้งกว่าปกติ เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่เสมอ ภายใน 10 วินาที ลองพยายามกะพริบตาสัก 1-2 ครั้ง จะช่วยลดความอ่อนล้าของสายตาได้มาก      
เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่เสมอ ภายใน 10 วินาที ลองพยายามกะพริบตาสัก 1-2 ครั้ง จะช่วยลดความอ่อนล้าของสายตาได้มาก      

          10. ตรวจสุขภาพตาบ่อยๆ ผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์ และมีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ควรตรวจเช็กสุขภาพตาบ้าง